(ภาพ : เจษฎา ปลั่งมณี กก.ผจก.บ.เหล็กสยามยามาโตะ มอบห้องตรวจเชื้อความดันลบแบบเคลื่อนที่จำนวน 1 เครื่อง มูลค่ากว่า 120,000 บาท ให้แก่ ผศ.นพ.ภาวิน เกษกุล และ ผศ.นพ. ศรัญ ประกายรุ้งทอง เพื่อใช้สำหรับตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อไวรัสโควิด ที่โรงพยาบาลศิริราช วันก่อน.)
“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน...ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ที่ปลอดจากการติดเชื้อภายในประเทศกว่า 20 วัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจสื่อสารกับประชาชนคนไทย เมื่อช่วงเย็นวันพุธที่ผ่านมา โดยระบุว่าแม้ขณะนี้ ยังประกาศชัยชนะ ที่มีต่อการระบาดของเชื้อโควิดได้ไม่เต็มที่นัก แต่อย่างน้อยการระบาดลดลงไป อยู่ระดับควบคุมได้ และต้องทำให้คนไทยสามารถกลับมาทำมาหากินกันได้เหมือนเดิมอีกครั้ง หลังจากวิกฤติโควิดได้ทำลายการหาเลี้ยงปากท้องของคนนับล้านๆ ทำลายธุรกิจทุกขนาด หลายล้านครัวเรือน ต้องนำเงินออมที่เคยเก็บไว้ ออกมาใช้จนหมด ที่แย่ไปกว่านั้นวิกฤติโควิดครั้งนี้ ทำให้ได้ตระหนักชัดว่า ประเทศไทย ของเรามีความแข็งแกร่งที่เป็นสุดยอดไม่แพ้ประเทศใดในโลก 2 เรื่องใน “ความเป็นไทย” คือ เห็นความพร้อมใจเป็นหนึ่งเดียวช่วยเหลือกันในยามวิกฤติ และเรามีคนเก่งที่มีความสามารถอยู่เยอะมากและอยู่ในทุกระดับของสังคม มีความคิดดีๆ มีพละกำลัง และมีความพร้อมใจ ต้องการที่จะช่วยประเทศชาติโดยไม่มีข้อแม้...ดังนั้นคิดว่าถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลและทั้งประเทศ ควรจะทำงานในทุกวันให้เหมือนกับว่าเราอยู่ในวิกฤติ ต้องก้าวข้ามเกมการเมือง และลงมือทำงานกันอย่างจริงจังให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ต้องใช้ชีวิตกันในรูปแบบใหม่ แบบที่เรียกว่า New Normal เพื่อที่จะอยู่รอดและก้าวต่อไปข้างหน้าได้ หมายความรวมถึงการทำงานของรัฐบาลด้วย วันนี้ขอประกาศให้ทราบว่า เมื่อเราเข้าสู่โลกใหม่จากนี้เป็นต้นไป การทำงานของรัฐบาลจะต้อง New Normal ปรับเปลี่ยนเป็นวิธีการทำงานแบบใหม่ ผนึกทุกภาคส่วน ร่วมวางอนาคตประเทศไทย โดยดึงทุกภาคส่วนและทุกระดับในสังคมเข้ามามีส่วนร่วม และมีบทบาทมากขึ้น ช่วยกัน กำหนดอนาคตของประเทศ...ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็น สัญญาประชาคม ที่ นายกฯประยุทธ์ ประกาศด้วยความมุ่งมั่น แต่การนำสิ่งที่พูดไปสู่ภาคปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมจะ สัมฤทธิผล แค่ไหน เวลา และ การกระทำ จะเป็น เครื่องพิสูจน์คำตอบสุดท้าย...ตึ่งโป๊ะ
เฮ้อ...หันไปที่สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดในประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย โดยทั้งหมดเดินทางกลับจาก ต่างประเทศ และอยู่สถานกักกันของรัฐ (State Quarantine) ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,141 ราย รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 1 ราย รวมหายป่วยกลับบ้านได้แล้ว 2,997 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 86 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตคงที่ 58 ราย...สรุปภาพรวมไม่มีผู้ติดเชื้อจากภายในประเทศ หรือเป็น 0 ต่อเนื่องกันมาแล้ว 24 วัน
ขณะที่สถานการณ์แพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก มียอดผู้ติดเชื้อทะลุ 8.4 ล้านราย เสียชีวิต 4.5 แสนราย โดย ประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อเป็น อันดับที่ 91 ของโลก...ถือว่าสถานการณ์เมืองไทยดีกว่าหลายสิบประเทศ เพราะความร่วมมือของประชาชนที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคและยังคงต้องช่วยกันรักษามาตรการอย่างเคร่งครัดต่อไป เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด...จบข่าว
ผ่างๆ...สถานการณ์การเมืองไทยพลิกผันไวกว่าที่คิด จากกรณี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ลาออกจาก หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ด้วยเหตุผลที่ว่าทิศทางการทำงานของพรรค ไม่ตรงกับแนวทางการทำงานของตัวเอง ขณะที่แกนนำพรรคอ้างว่า ผลงานไม่เข้าเป้า แต่ที่แน่ๆเพียงแค่ข้ามวัน ทางพรรคก็แบชื่อ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ไว้เตรียมเสียบเก้าอี้ รมว.แรงงาน แทนทันทีเมื่อถึง คิวปรับ ครม. ในเร็วๆนี้
เฉกเช่นเดียวกับ พรรคพลังประชารัฐ ที่จ่อร่นนัดประชุมใหญ่สามัญเพื่อเลือก คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ให้เร็วขึ้นจากเดิมวันที่ 3 ก.ค. เป็นวันที่ 27 มิ.ย. ดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค และ อนุชา นาคาศัย ขยับขึ้นเป็น เลขาธิการพรรค พ่วงออปชัน โละ เก้าอี้รัฐมนตรี ของ กลุ่ม 4 กุมาร นำมาแบ่งสันปันส่วนกันใหม่ตาม โควตากลุ่ม ส.ส. ในพรรค และนั่นก็เท่ากับเป็นการเร่งคิวให้ นายกฯประยุทธ์ ต้อง ปรับ ครม. ตามสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยปริยาย... โฉมหน้า ครม.ชุดใหม่ จะหลุดพ้นวังวนการเมืองเก่า อย่างที่ผู้นำต้องการได้หรือไม่ เดี๋ยวก็รู้นะจ๊ะ
อืม...ในห้วงสถานการณ์ ไวรัสโควิด ถล่มโลก ธุรกิจการส่งออกได้รับผลกระทบถ้วนหน้า แต่สำหรับประเทศไทย ที่ถือว่าเป็นครัวโลก สินค้าเกษตร จึงเป็นสินค้าระดับพระเอก เพราะเป็นที่ต้องการของประชากรโลก...ที่สำคัญต้องขอชื่นชม เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ รวมทั้ง กรมปศุสัตว์ ที่ช่วยผลักดันการส่งออก เนื้อไก่ไทย ในปี 2562 ได้สูงถึง 9.4 แสนตัน นำเงินเข้าประเทศ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท วันก่อนแว่วว่า จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ จับมือเตรียมผลักดันการส่งออกเนื้อหมู ที่ กรมปศุสัตว์ มีมาตรการดูแลเข้มงวด ทำให้หมูของไทยเป็นประเทศเดียวที่ปลอดจาก โรค ASF และมีต้นทุนราคาถูกกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ หากการเจรจาสำเร็จจะช่วยทำให้การส่งออก เนื้อหมูไทย ก้าวสู่ตลาดโลกได้เหมือน เนื้อไก่ เป็นผลดีแก่ เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ทั่วประเทศ เพราะจะทำให้ ราคาหมู ในประเทศมีเสถียรภาพเหมือนกับ ไก่ ที่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญ นอกเหนือไปจากมูลค่าการส่งออกทำรายได้เข้าประเทศ...เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูจึงส่งแรงเชียร์ขอให้ รมต.ทั้ง 2 กระทรวง เจรจาให้สำเร็จลุล่วงโดยไว
สังคมทั่วไป
ศพ คุณแม่สวงค์ บุญชอบ ตั้งสวดศาลา 2 วัดชลประทานฯ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 18.30 น. ถึง 20 มิ.ย. ฌาปนกิจ 21 มิ.ย. 15.00 น.
ศพ ยิ่งศักดิ์ ตรงต่อศักดิ์ ตั้งสวดศาลา 4 วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน 18.00 น. ถึง 21 มิ.ย. ฌาปนกิจ 22 มิ.ย. 17.00 น.
"ธนูเทพ"
"ห้อง" - Google News
June 20, 2020 at 05:01AM
https://ift.tt/3fSyxfd
มอบห้องตรวจเชื้อความดันลบเคลื่อนที่ ใช้ตรวจวินิจฉัยโควิด-19 แก่ รพ.ศิริราช - ไทยรัฐ
"ห้อง" - Google News
https://ift.tt/2XmOq6Z
No comments:
Post a Comment