Pages

Saturday, June 6, 2020

รัฐเร่งสำรองห้องพักกักโรค9พันห้อง รับคนไทยกลับบ้าน - เดลีนีวส์

berseterulah.blogspot.com
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า  สำหรับการจำกัดจำนวนคนไทยที่จะเดินทางจากต่างประเทศกลับเข้าประเทศไทย ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น เราพยายามเพิ่มความสามารถรองรับคนไทยส่วนนี้ เป็นวันละ 500 คนแล้ว  ขณะที่กระทรวงกลาโหมและกระทรวงสาธารณสุข กำลังจัดหาโรงแรมเพิ่มเติมมาเป็นสถานที่กักกันของรัฐ เพื่อรองรับจำนวนคนไทยที่จะกลับเข้ามาประเทศมากขึ้น  ดังนั้น ทั้ง 2 กระทรวงจึงร่วมกันประสานงานกับสมาคมโรงแรมในการจัดเตรียมห้องพักห้องและเจ้าหน้าที่รองรับใช้เป็นสถานที่กักกันของรัฐสำรองไว้ จำนวน 9,000 ห้อง โดยโรงแรมทุกแห่งต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด  ขณะเดียวกันยังไม่เพิ่มจำนวนวันกักตัวจากเดิม 14 วันซึ่งเป็นระยะฟักตัวของเชื้อ  เนื่องจาก กระทรวงสาธารสุขมีมาตรฐานการตรวจเชื้อใน 2 ครั้ง คือระหว่างการกักตัว และก่อนจะออกจากสถานที่กักกันฯ โดยตรวจเชื้อวันที่ 5 ของการเข้าพัก และวันที่ 12 ก่อนจะครบกำหนด 14 วัน ซึ่งหากพบผู้ติดเชื้อก็จะนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในทันที ซึ่งที่ผ่านมา สถานกักกันควบคุมโรคของรัฐมีส่วนสำคัญสามารถคัดกรองและควบคุมการแพร่ระบาดจากต่างประเทศอย่างได้ผล

พล.ท.คงชีพ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องการให้คนไทยในต่างประเทศที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทย ซึ่งได้ลงทะเบียนไว้เป็นจำนวนมาก สามารถกลับบ้านได้เร็วขึ้น  จึงกำชับให้กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการเพิ่มขีดความสามารถรองรับคนไทยที่มาจากต่างประเทศได้จำนวนมากขึ้นในแต่ละวัน ตามความต้องการที่ได้มีการลงทะเบียนไว้  โดยกระทรวงต่างประเทศรายงานว่ามีคนไทยที่ลงทะเบียนแสดงความประสงค์เดินทางกลับไทยถึงกลางเดือน ก.ค.นี้  ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความพร้อมด้านสาธารณสุขและสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศควบคู่กันไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ภายหลังจากมีมาตรการผ่อนคลายกิจกรรมหรือกิจการ ระยะที่ 3 แล้ว เพื่อไม่ให้กระทบกับขีดความสามารถการควบคุมโรคภายในประเทศโดยรวม หากกลับมามีการแพร่ระบาดของโรค ระลอก 2.
 

Let's block ads! (Why?)



"ห้อง" - Google News
June 06, 2020 at 03:47PM
https://ift.tt/2AL6TkO

รัฐเร่งสำรองห้องพักกักโรค9พันห้อง รับคนไทยกลับบ้าน - เดลีนีวส์
"ห้อง" - Google News
https://ift.tt/2XmOq6Z

No comments:

Post a Comment