เผยเคล็ดลับ Rolls-Royce แบรนด์รถยนต์หรูจากอังกฤษ สามารถออกแบบห้องโดยสารให้เงียบ ได้อย่างไร แบรนด์รถยนต์หรูจากอังกฤษ สามารถออกแบบห้องโดยสารให้เงียบ ได้อย่างไร
อัครยานยนต์ “โรลส์-รอยซ์” ( Rolls-Royce ) จากประเทศอังกฤษ ที่ได้ชื่อเรื่องการพัฒนารถให้หรูหรา การออกแบบภายในใส่ใจในรายละเอียด จากวัสดุที่เลือกใช้ พร้อมงานประกอบประณีต ขณะเดียวกันยังนำความรู้ด้านวัสดุศาสตร์และการเดินทางของเสียง มาใช้เป็นเทคนิคเพื่อสร้างห้องโดยสารที่สะดวกสบาย และเงียบที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับห้องโดยสารของรถทั่วไป
ทีมงานด้านเสียงของ Rolls-Royce จะเริ่มต้นด้วยการนำสถาปัตยกรรมอลูมิเนียมสเปซเฟรมที่เป็นสิทธิบัตรของตนเองมาใช้ ซึ่งมีข้อได้เปรียบจากค่าความต้านทานคลื่นเสียง (acoustic impedance) ที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับโครงสร้างจากเหล็กกล้า รวมถึงการใช้พื้นผิวที่มีรูปแบบซับซ้อนแทนที่จะเป็นแบบเรียบ
ขณะที่ฝากั้นเครื่องยนต์เลือกใช้แบบหุ้ม 2 ชั้นเพื่อซับเสียงของเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.75 ลิตรไม่ให้เล็ดลอดเข้าไปภายในห้องโดยสาร ส่วนช่องว่างที่หลังคา พื้นที่เก็บของ และพื้นรถยังได้รับการบุด้วยวัสดุซับเสียงกว่า 100 กิโลกรัม
สำหรับหน้าต่างรถแบบเคลือบ 2 ชั้นพร้อมแผ่นเซ็นเตอร์ชีทที่ทำจากวัสดุคอมโพสิต และยางรถที่บุด้วยโฟมซึ่งเป็นฉนวนซับเสียงนํ้าหนักเบา
เมื่อตัวถังรถ ซึ่งเป็นเสมือนห้องเก็บเสียงได้รับการพัฒนาเสร็จแล้ว ทีมวิศวกรจะพิจารณาองค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ ทุกชิ้น โดยชิ้นที่สร้างเสียงรบกวนในระดับที่เกินจะยอมรับได้จะถูกคัดทิ้ง และออกแบบใหม่ทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังสร้างเสียงจำลองซึ่งเป็นเสียงตํ่า โทนเดียว ให้สอดแทรกมาอย่างแนบเนียน ซึ่งลูกค้าสามารถสัมผัสได้ คล้ายโน้ตดนตรีที่ถูกเล่นอย่างแผ่วเบา โดยทีมงานต้องปรับจูนชิ้นส่วนทุกอย่างให้สร้างเสียงสะท้อนในความถี่เดียวกัน รวมถึงการสร้างชุดซับเสียงสำหรับโครงเบาะนั่ง
ทอม เดวิส-รีสัน หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมเสียงของ โรลส์-รอยซ์ ที่ กู๊ดวูด เวสต์ซัสเซ็กส์ เปิดเผยว่า สูตรสำเร็จเพื่อห้องโดยสารที่เงียบสงบ (Formula for Serenity) ที่ได้รับการพัฒนาใหม่นี้ จะนำไปใช้กับรถยนต์ Rolls-Royce “โกสต์ รุ่นใหม่” ที่เตรียมเปิดตัวปลายปีนี้
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,603 วันที่ 23 - 26 สิงหาคม พ.ศ. 2563
"ห้อง" - Google News
August 30, 2020 at 08:55AM
https://ift.tt/2YNXMsS
Rolls-Royce ออกแบบห้องโดยสารให้เงียบ ได้อย่างไร - ฐานเศรษฐกิจ
"ห้อง" - Google News
https://ift.tt/2XmOq6Z
No comments:
Post a Comment